วันหนึ่ง อาร์เธอร์เผลอทำปืนตกระหว่างทำการแสดงในโรงพยาบาลเด็ก เมื่อถูกถามว่าปืนนี้เป็นของใคร แรนดอลเพื่อนร่วมงานของเขาโกหกว่า อาร์เธอร์เป็นคนซื้อปืนนั้น ทำให้อาร์เธอร์ถูกไล่ออกจากงาน ขณะนั่งรถไฟใต้ดินกลับอพาร์ตเมนท์
ต่อมา อาร์เธอร์เผลอทำปืนร่วงระหว่างทำการแสดงในโรงพยาบาลเด็ก เมื่อถูกถามถึงเจ้าของ แรนดอลโกหกว่าอาร์เธอร์ซื้อปืนนั้นไปจึงทำให้อาร์เธอร์ถูกไล่ออก ขณะนั่งรถไฟใต้ดินกลับห้อง อาร์เธอร์ถูกพนักงานเวย์นเอ็นเตอร์ไพรส์ 3 คนที่เมารุมทำร้าย เขาจึงยิงทั้งหมดตายเพื่อป้องกันตัว แต่เหตุการณ์นี้กลับเป็น ชนวนให้เกิดการประท้วงความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยและคนจนในเมือง โดยผู้ประท้วงสวมหน้ากากตัวตลกเป็นสัญลักษณ์ ต่อมาอาร์เธอร์พบว่าสำนักงานสังคมสงเคราะห์จะถูกปิดเนื่องจากถูกตัดงบประมาณ ทำให้เขาจะไม่ได้รับการรักษาอีก
คืนหนึ่ง โซฟีมาดูอาร์เธอร์แสดงตลกแต่ไม่ได้รับการตอบรับที่ดี เพราะอาร์เธอร์หัวเราะไม่หยุด คลิปวิดีโอตอนที่อาร์เธอร์แสดงถูกฉายและล้อเลียนในรายการทอล์กโชว์ของเมอร์เรย์ แฟรงคลิน ด้านเพนนีขอให้อาร์เธอร์ส่งจดหมายขอความช่วยเหลือด้านการเงินถึงโทมัส เวย์น แต่อาร์เธอร์แอบอ่านและพบว่าตนเป็นบุตรชายลับ ๆ ของโทมัสกับเพนนี ต่อมาตำรวจ 2 นายมาสอบถามเพนนีถึงเหตุ ฆาตกรรมในรถไฟใต้ดินที่อาร์เธอร์เกี่ยวข้อง ทำให้เธอล้มหมดสติและเส้นเลือดในสมองแตก อาร์เธอร์บุกไปที่คฤหาสน์เวย์นเพื่อถามความจริงจากโทมัส แต่พบเพียงบรูซ เวย์น บุตรชายของโทมัสกับมาร์ธา เวย์น
ต่อมาอาร์เธอร์ลอบเข้าไปถามเรื่องเพนนีกับโทมัสที่งานเลี้ยง แต่โทมัสกลับบอกว่าเพนนีป่วยทางจิตและไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของอาร์เธอร์ อาร์เธอร์จึงไปหาประวัติเพนนีที่โรงพยาบาลอาร์คัม จนพบว่าตนเป็นบุตรบุญธรรมของเพนนี แต่มักถูกเพนนีทอดทิ้งและมักถูก แฟนของเพนนีทำร้ายจนได้รับการกระทบกระเทือนทางสมองตั้งแต่เด็ก อาร์เธอร์ที่ใจสลายไปหาเพนนีและฆ่าเธอ ก่อนจะกลับมาที่ห้องของโซฟี และพบว่าที่พบกันครั้งก่อน ๆ กับโซฟีนั้น เขาเห็นภาพหลอนไปเอง\
ต่อมาอาร์เธอร์ได้รับเชิญให้มาออกรายการของเมอร์เรย์เนื่องจากคลิปของเขาได้รับความนิยม ระหว่างนั้น แรนดอลและแกรี อดีตเพื่อนร่วมงานมาเยี่ยมอาร์เธอร์ อาร์เธอร์แทงแรนดอลตาย แต่ไว้ชีวิตแกรี ขณะเดินทางไปที่สตูดิโอของเมอร์เรย์ อาร์เธอร์ถูกตำรวจ 2 นายที่เคยมาสอบถามเพนนีไล่ตาม เขาจึงแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มผู้ประท้วงในรถไฟใต้ดินและอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไปได้
ที่สตูดิโอ อาร์เธอร์ขอให้เมอร์เรย์แนะนำตัวเขาว่า “โจ๊กเกอร์” เมื่อออกมาพบผู้ชม อาร์เธอร์ประกาศว่าตนเป็นคนฆ่าชาย 3 คนในรถไฟใต้ดินก่อนจะยิงเมอร์เรย์จนตาย อาร์เธอร์ถูกจับกุมและพาตัวไปคุมขัง แต่ระหว่างที่รถตำรวจที่อาร์เธอร์นั่งมาแล่นผ่านย่านที่มีการชุมนุม รถตำรวจถูกชนและอาร์เธอร์ได้รับการช่วยเหลือ ก่อนจะได้รับการยกย่องจากกลุ่มผู้ประท้วง อีกด้านหนึ่งของการชุมนุม โทมัสและมาร์ธาถูกผู้ประท้วงยิงตาย ทิ้งให้บรูซกลายเป็นเด็กกำพร้า
ในที่สุด อาร์เธอร์ถูกตามจับตัวและคุมขังในโรงพยาบาล จิตแพทย์ถามอาร์เธอร์ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เมื่อเห็นเขาหัวเราะคนเดียว แต่อาร์เธอร์ปฏิเสธจะตอบ ภาพยนตร์จบลงเมื่ออาร์เธอร์พยายามหลบหนีผู้ดูแลโดยทิ้งรอยเท้าที่เป็นรอยเลือดไว้
กำกับ / ท็อดด์ ฟิลลิปส์
เขียนบท / ท็อดด์ ฟิลลิปส์ , สก็อต ซิลเวอร์
สร้างตัวละครโดย / ดีซีคอมิกส์
อำนวยการสร้าง / ท็อดด์ ฟิลลิปส์ , แบรดลีย์ คูเปอร์ , เอ็มมา ทิลลิงเกอร์ ค็อสคอฟ
นักแสดงนำ / วาคีน ฟีนิกซ์ , โรเบิร์ต เดอ นีโร , ซาซี บีทซ์ , ฟรานเซส คอนรอย
กำกับภาพ / ลอว์เรนซ์ เชอร์
ตัดต่อ / เจฟฟ์ กรอธ
ดนตรีประกอบ / ฮิลเดอร์ กืดนาตอตตีร์
บริษัทผู้สร้าง / วอร์เนอร์บราเธอส์ , ดีซีฟิล์มส , จอยต์เอฟฟอร์ต , วิลเลจโรดโชว์พิกเจอส์ , บรอนครีเอทีฟ
จัดจำหน่ายโดย / วอร์เนอร์บราเธอส์
วันที่ฉาย / 31 สิงหาคม 2019 (เวนิส) , 3 ตุลาคม 2019 (ไทย) , 4 ตุลาคม 2019 (สหรัฐ)
ความยาวภาพยนต์ / 122 นาที
ประเทศ / สหรัฐ
ภาษา / อังกฤษ
ทุนสร้าง / 55–70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
รายได้ / 1,074 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ภาคต่อ / โจ๊กเกอร์ โฟลีย์ อา เดอ