ขณะเดียวกันพ่อของเขาได้ไปยื่นคำร้องเพื่อคัดค้าน การสั่งพักงานในศาลสูงสุด มาโนจและน้องชายได้ตัดสินใจขับรถลากไปช่วยงานที่บ้าน และน้องชายของมาโนจยังถูกกล่าวหาอย่างผิดๆ พวกเขาจะเรียกความบริสุทธิ์ของตัวเองคืนมาได้หรือไม่ติดตามรับชมได้ที่ ดูหนังออนไลน์ www.idomovie
'' ไม่มีเวลาให้เสียใจ แม้ความฝันสลายดับ
ระทมต่อไปก็ไม่ได้ดี ฉันต้องก้าวต่อไปด้วยรอยยิ้มยินดี
บอกตัวเองว่าสักวัน..ฉันจะกลับมาอีกครา
พรุ่งนี้เทพีแห่งโชคชะตา... จะมาอยู่ข้างฉัน ''
ในแต่ละปีนั้น จากจำนวนผู้ที่ก้าวเท้าเข้าสอบกว่า 200,000 คน จะเหลือเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นคนเท่านั้นที่สมหวัง..
นี่คือการสอบ UPSC ผู้เข้าสอบที่ผ่านการทดสอบต่างๆจะได้เป็นเจ้าหน้าที่พิเศษของทางรัฐบาลอินเดีย
ที่มีหน้าที่คอยตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกที ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ถือว่าสูงมาก
และแน่นอนว่ากว่าจะไปถึงจุดนั้นได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
ซึ่งการสอบนั้นจะแบ่งเป็น 3 รอบ รอบแรกจะเป็นแบบปรนัย 200 ข้อ.. และรอบสองจะเป็นรูปแบบอัตนัย เขียนแบบจำกัดเวลาในหัวข้อที่กำหนด
และ สุดท้ายคือการสอบสัมภาษณ์ หากไม่ผ่านในรอบใดรอบหนึ่งคุณจะกลับไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ในทันที..
และผู้เข้าสอบทุกคนจะมี โอกาสในการสมัครสอบได้เพียงแค่คนละ 4 ครั้ง หากครบโควตาแล้วยังไม่ผ่าน..
นั่นหมายถึงอนาคตในเส้นทางสายนี้ของคุณ ได้จบลงอย่างสมบูรณ์แล้ว
จึงทำให้คนหนุ่มสาวทั่วทั้งอินเดียอยากใฝ่ฝันที่จะสอบผ่านให้ได้ เช่นเดียวกันกับมาโนช เด็กหนุ่มจากเมือง ชนบทอันห่างไกล
เขาต้องการจะเป็น เจ้าหน้าที่รัฐเพื่อที่หวังจะกลับไปพัฒนาบ้านเกิด
และปราบปรามพวกตำรวจขี้โกง และรับสินบนจากนักการเมืองท้องถิ่นจนทำให้ชาวบ้านต้องลำบากได้รับความเดือดร้อน
ซึ่งคนที่ได้รับผลกระทบนี้ส่วนนึงก็คือครอบครัวของเขาเอง
มาโนชได้เดินทางมายัง เดลีเพื่อความฝันนี้ แต่ก็ต้องพบกับอุปสรรคมากมาย ทั้งกระเป๋าเงินของเขาถูกขโมย
เงินที่ทางบ้านเก็บหอมรอบริบมาทั้งหมด เพื่อเป็นทุนในการใช้ชีวิตของเขาหมดลงไปในพริบตา..
แต่ยังดีที่เขาได้พบกับเพื่อนที่ดีในเมืองใหญ่แห่งนี้ ทำให้ยังพอได้งานทำและมีที่พัก
ระหว่างที่มาโนชทำงานอย่างเต็มที่สุดกำลัง เพื่อที่จะได้เอาเงินช่วยเหลือที่บ้านและอ่านหนังสือสอบอย่างขะมักเขม้น
เขาก็ได้พบกับปริศนาบางอย่าง เขาได้พบกับหญิงสาวผู้เป็นอีกแรงผลักดันในชีวิต
แต่การสอบไม่เคยปราณีกับตัวเขาเลย มาโนชพยายามสอบสามครั้งก็ไม่ผ่านสักที ชายหนุ่มเริ่มท้อแท้
และคิดว่าฝันที่เขาตั้งใจมันอาจจะไปไม่ถึงและไกลเกินจนเอื้อมที่เขาจะทำมันให้สำเร็จ
ชีวิตของเด็ก ต่างจังหวัดที่ห่างไกลอย่างตัวเขาคงเหมาะกับการทำงานใช้แรงมากกว่าก็เป็นได้..
12th Fail เป็นภาพยนตร์อินเดียภาษาฮินดี กำกับและเขียนบทโดย Vidhu Vinod Chopra
สร้างจากเรื่องจริงของ มาโนช กุมาร์ ชาร์มา ผู้ซึ่งเอาชนะความยากจนและความยากลำบากในชีวิต
ใช้การศึกษาต่อสู้เพื่อตัวเองจนสามารถ ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งนครมุมไบในปัจจุบัน
นี่คือภาพยนตร์ ที่สร้างแรงบันดาลใจได้ดีมากกกกก.. เราจะได้เห็นถึงชีวิตของคนคนนึงที่ดิ้นรนปากกัดตีนถีบ
เพื่อหวังจะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม และแน่นอนเขาต้องทำให้ได้เพื่อครอบครัวที่ตัวเองต้องจากมา..
ในหนังเราจะเห็นได้ถึงปัญหาทางสังคมที่มีอยู่เป็นเรื่องปกติธรรมดามาก นั่นก็คือการคอรัปชั่นจากเจ้าหน้าที่รัฐ
ตัวเอกของเรื่องจึงตั้งคำถามในใจว่าจะมีวิธีการใดที่เราจะหยุดยั้งพวกที่ชอบทุจริตแบบนี้ได้
คำตอบก็คือถ้าเรามีอำนาจมากกว่า.. เราก็สามารถจัดการพวกนี้ได้
แต่แน่นอนว่า เราอย่าหลงไปกับอำนาจนั้นจนสุดท้าย เรานั้นจะกลายเป็นอย่างคนที่เราเกลียดซะเอง
ความมุ่งมั่นในการที่สอบเข้า ก็เป็นอีกสิ่งที่เราได้เห็นจากหนังว่า พวกเขาทุ่มเทกันแบบเอาเป็นเอาตาย
ทุกอย่างมีชีวิตเป็นเดิมพัน เนื่องจากต้นทุนทางสังคมที่แตกต่างกัน
ดังนั้นการสอบจึงเหมือน ประตูที่จะก้าวข้ามผ่านไปสู่ชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม
แม้ว่าอัตราการแข่งขัน จะยากเย็นแสนเข็ญมากแค่ไหนก็ตามที
แต่ตราบใดที่เรามีกำลังจากคนที่เรารัก นั่นทำให้เรารู้ว่าทุกอย่างที่เรากำลังทำ กำลังเผชิญหน้าอยู่นั้น
เราไม่ได้สู้ตัวคนเดียว.. พลังแห่งความรักและความเข้าใจนั้นยิ่งใหญ่มากเหลือเกิน (ยิ่งช่วงท้ายดูไปร้องไห้ไป ซึ้งจัด)
ช่วงหลังอินเดียสร้างหนังแบบนี้ออกมาเยอะมาก เพื่อให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกร่วม
โดยหวังว่าจะมีแรงผลักดันให้อยาก ประสบความสำเร็จเฉกเช่นบุคคลที่หนังนำเสนอ..
แม้ว่ามันจะยาก แต่อย่างน้อยสิ่งที่พวกเขาได้รับแล้ว หลังชมภาพยนตร์จบ นั่นก็คือพลังของหนังที่ส่งมาถึงพวกเขา
และกำลังใจที่ได้รับ นี่ล่ะคือ soft power ที่แท้จริง
ภาพยนตร์สามารถให้อะไรได้มากกว่าความบันเทิงครับ การถ่ายทอดสิ่งต่างๆออกมา
มันทำให้ผู้ชมได้สัมผัสถึงสิ่งที่เรียกว่าแรงบันดาลใจ ความตื้นตัน สิ่งเหล่านี้มันสามารถกระตุ้นตน และพัฒนาคนได้
..หนังสร้างคนให้มีคุณภาพ คนเหล่านั้นก็สร้างสังคมให้พัฒนาไปอีกขั้น
เราดูหนังต่างประเทศกันบ่อย มีหนังชีวประวัติเพียบ คนสำคัญแทบทุกวงการของบ้านเขาสามารถเอามาเล่าเป็นหนังได้ทั้งนั้น
แต่บ้านเรากลับไม่มี เสียดายที่วงการหนังบ้านเราไม่นิยมทำหนังชีวประวัติออกมาสักเท่าไหร่ (มีก็น้อยมาก)
เข้าใจว่านายทุนคงไม่สนใจ เพราะขายไม่ออก คนดูก็ไม่ชอบเพราะมันน่าเบื่อ
เอ....เป็นไปได้มั้ยว่าสังคมไทยไม่มีชีวิตคนไหนน่าสนใจพอที่จะสร้างเป็นภาพยนตร์ได้เลยหรืออย่างไร..
ผมเองก็ได้แต่สงสัย.. หรือมันคงไม่มีจริงๆ
ปิดท้ายด้วย 1 ประโยคกินใจ (ที่จริงๆมีเยอะมาก)
''.......ถ้าผมเป็นดวงอาทิตย์ส่องสว่างให้โลกไม่ได้ ...
ก็ขอเป็นแค่โคมไฟส่องสว่างให้กับท้องถนนก็ยังดี.... ''
หนึ่งในหนังอินเดียน้ำดีที่มีข้อคิดสอนคนอีกเรื่องนึง ซึ่งเป็นเรื่องราวของหนังเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริง ของคนจนคนนึงในหมู่บ้านห่างไกลที่ถูกคนเมืองใหญ่ ตราหน้าว่าเป็นหมู่บ้านแห่งโจร ได้พยายามอย่างหนังในการสอบตำรวจเพียงเพื่อเป้าหมายเดียวคือต้องการนำความซื่อสัตย์ความเชื่อมั่นไปจัดการกับพวกคอรัปชั่น ต้องบอกว่าทีมนักแสดงหลักโคตรมีเสน่ห์เลยโดยเฉพาะพี่มาโนชและน้องศรัทธา นี่มันดอกฟ้ากับหมาขี้เรื้อนชัดๆ แต่เป็นหมาขี้เรื้อนที่เราคนดูคอยเอาใจช่วยให้พี่แกได้เป็นหมาตำรวจ แล้วเราก็ได้เห็นเรื่องราวต่างๆที่แกสู้แบบสุดๆ รัฐเปิดให้สอบได้4ครั้ง แกก็สอบครบทั้ง4ครั้งเลยกว่าจะผ่าน ซึ่งสิ่งหนึ่งที่หนังอินเดียเรื่องนี้นำเสนอคือ การคัดเลือกคนมารับราชการอย่างหัวหน้าตำรวจเนี้ย มันคัดกันเข้มข้นมาก ถึงแม้จะมีคนคดโกงบางคนหลุดเข้าไปในระบบได้ แต่ก็มั่นใจได้ว่าเปอร์เซ็นที่คนซื่อสัตย์สุจริตได้เข้ามาในระบบมันมีเยอะกว่าแน่นอน